|
ขั้นตอนการทำงาน

ขั้นตอนที่ 1
เตรียมตัวด้วยเครื่องป้องกันฝุ่น ผ้าคลุมตัว หรือผ้าปิดจมูกแล้วแต่จะหาได้ สถานที่ในการทำงาน ควรมี การวางแผนในการทำงาน ส่วนที่เราไม่ต้องการทาสีให้คลุมด้วยพลาสติก เช่นมือจับ บานพับเป็นต้น

ขั้นตอนที่ 2
หากเฟอร์นิเจอร์ของคุณมีสีเก่าที่ทาอยู่ก่อนแล้ว ให้ทำการลอกด้วยน้ำยาลอกสี ทาด้วยแปรงขนสัตว์ ทิ้งไว้ประมาณ 2-5 นาที แล้วใช้แปรงลวดทองเหลืองขัด หรือเหล็กโป้วแซะออก ระวังอย่าให้สีลอก โดนผิวหนังหรือเข้าตา หากโดนผิวหนังให้ล้างออกด้วยน้ำสบู่ทันที ถ้าเข้าตาควรล้างตา แล้วรีบไปพบ แพทย์โดยด่วน

ขั้นตอนที่ 3
ตามมุมซอกขาโต๊ะ เก้าอี้ ที่เป็นลวดลายกลึง ซึ่งเหล็กโป้วไม่สามารถเข้าไปได้ถึง ให้ใช้แปรงลวดทอง เหลืองขัดตามซอกมุม ให้สีเก่าหลุดออกมาจนหมด

ขั้นตอนที่ 4
ในส่วนที่ผิวไม่เรียบมากให้ไสไม้ปรับผิวไม้ด้วยกบไสไม้ ขัดจนเรียบเสมอกันก่อนทำการทาสี

ขั้นตอนที่ 5
ถ้าผิวพื้นไม่ค่อยเรียบและไม่มีกบไส ก็สามารถใช้เครื่องขัดกระดาษทรายขัดปรับพื้นผิวก่อน ให้เรียบได้ โดยใส่กระดาษทรายหยาบขัดก่อน

ขั้นตอนที่ 6
ก่อนการทาสี หลังจากที่ปรับพื้นผิวของตัวเฟอร์นิเจอร์แล้ว ให้ขัดผิวขั้นสุดท้าย ด้วยกระดาษทราย ละเอียดเพื่อให้ผิวงานเรียบเนียน

ขั้นตอนที่ 7
ส่วนที่เป็นด้านตัดของไม้หรือหัวไม้จะต้องขัดให้เรียบร้อยเนียนกว่าปกติ จะได้ผิวงานที่เงามันสวยงาม

ขั้นตอนที่ 8
อุดรอยแตกร้าวของผิวหน้าเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากการแตกของผิวไม้ไม้ที่โดนกระแทก จะทำให้ไม้หดตัว การอุดรอยแตกร้าวควรใช้วัสดุสำหรับอุดเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถทาสีทับได้ด้วย

ขั้นตอนที่ 9
ในส่วนที่ขอบแตกบิ่น จนต้องนำไม้มาปะทับนั้น ให้เลือกชนิดไม้และสีเดียวกัน กับตัวเฟอร์นิเจอร์หรือ ใกล้เคียงกัน นำมาปะทับให้สนิท โดยการตัดแต่งเฟอร์นิเจอร์เก่าให้เป็นแนวตรงก่อน ที่จะไปติดไม้ ปะมาปิดท้ายลงไป แล้วทากาวยึดด้วยตะปู ขัดแต่งให้เรียบเนียน เป็นเนื้อเดียวกัน

ขั้นตอนที่ 10
ทาสีเฟอร์นิเจอร์ด้วยแปรงทาสี ถ้าเป็นบริเวณกว้าง ให้ใช้แปรงขนาด 3-4 นิ้ว ถ่าตามซอกมุม ให้ใช้ แปรงขนาดเล็ก 1-2 นิ้ว หากคุณมีเครื่องปั๊มลมก็สามารถใช้พ่นสีได้ซึ่งจะใช้เวลาน้อย และได้ผิวเนื้องาน ที่เรียบเสมอกัน |
|
 |
|
|
|